ในการทดลองระเบิดไฮโดรเจนของสหรัฐ เกิดการระเบิดที่มีความรุนแรงพันเท่าของระเบิดที่ฮิโรชิมา และก่อให้เกิดการปนเปื้อนกัมมันตรังสีครั้งใหญ่ตามมา
แคสเซิลบราโว (Castle Bravo) เป็นระเบิดอาวุธเทอร์โมนิวเคลียร์หรือระเบิดไฮโดรเจนแบบเชื้อเพลิงแห้งลูกแรกของสหรัฐ ในปฏิบัติการแคสเซิล (Operation Castle) ซึ่งพื้นที่ที่ใช้ทดลอง คือ เกาะปะการังบิกินี หมู่เกาะมาร์แชลล์ ในเขตไมโครนีเซียของมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1954 (พ.ศ. 2497)
การทดลองครั้งนั้นนักวิทยาศาสตร์ได้เห็นการระเบิดที่เทียบเท่าระเบิดทีเอ็นทีน้ำหนัก 15 เมกกะตัน ซึ่งถือว่ารุนแรงเป็น 1,000 เท่าของระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมา แทนที่จะเป็น 4 ถึง 6 เมกะตันอย่างที่คาดกันไว้ การระเบิดดังกล่าวก็ถือว่ามีความรุนแรงเป็นอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์ และยังก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาในพื้นที่ที่ทดลองระเบิดด้วย
ทั้งนี้ ประชากรที่อาศัยอยู่เดิมถูกอพยพออกไปจากพื้นที่ตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1940 เพื่อเตรียมความพร้อมด้านพื้นที่ จนเมื่อมีการทดลองพบว่า ผลกระทบของกัมมันตรังสีแผ่ออกไปไกลกว่า 100 ไมล์ หรือ 160 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเกาะสู่พื้นที่ที่เคยมีผู้คนอาศัยอยู่

ลูกไฟขนาดใหญ่เกือบ 7 กิโลเมตร ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากเกาะปะการังควาจาเลียน (Kwajalein Atoll) ซึ่งอยู่ห่างออกไปไกลถึง 400 กิโลเมตร หลังการระเบิดเพียง 1 นาที เกิดเมฆรังสีรูปเห็ดสูง14 กิโลเมตร และเส้นผ่านศูนย์กลาง 11 กิโลเมตร และในเวลา 10 นาทีหลังการระเบิด เมฆรังสีมีขยายตัวในอัตราใ100 เมตรต่อวินาที (360 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ทำให้มีความสูง 40 กิโลเมตรและกว้าง 100 กิโลเมตร
นอกจากนี้ยังพบว่า หลังการระเบิดได้ทิ้งร่องรอยคล้ายปล่องภูเขาไฟขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 กิโลเมตร และลึก 76 เมตร
ผลกระทบที่ตามมา คือ เกิดการปนเปื้อนปกคลุมพื้นที่รอบๆ มหาสมุทรแปซิฟิก รวมทั้งหมู่เกาะเล็กๆ อีกหลายแห่ง แม้จะมีการอพยพผู้คนบนเกาะ แต่ในชั้นลูกหลานรุ่นถัดมาได้แสดงให้เห็นผลกระทบ คือ ผู้คนต้องทนทุกข์ทรมานจากความพิการตั้งแต่เกิด หรือการเกิดขึ้นของเนื้องอก ทำให้ในเวลาต่อมารัฐบาลสหรัฐต้องชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน เรือประมงของญี่ปุ่นชื่อ Daigo Fukuryu Maru ที่มีลูกเรือ 23 คน ได้รับการสัมผัสปนเปื้อนฝุ่นกัมมันตรังสี ลูกเรือทั้งหมดเกิดการเจ็บป่วยจากการสัมผัสกัมมันตรังสีเฉียบพลันในเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น มีผู้เสียชีวิตไปหนึ่งราย ขณะที่ ปลา น้ำ พื้นดิน เกิดการปนเปื้อนทางกัมมันตรังสีอย่างรุนแรง
ยิ่งกว่านั้น การติดตามการแพร่กระจายของกัมมันตรังสีพบว่าแพร่ไปไกลถึงออสเตรเลีย อินเดียและบางส่วนของยุโรป ทำให้แคสเซิลบราโวเป็นหนึ่งในอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุด
แต่หลังจากการทดลองแคสเซิลบราโวเพียง 7 ปีครึ่ง คือ ค.ศ. 1961 (พ.ศ. 2504) สหภาพโซเวียตก็ผลิตระเบิดไฮโดเจนเรียกว่า ระเบิดซาร์บอมบ์ (Tsar Bomb) ที่ถือว่าเป็นอาวุธนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดขนาดใหญ่ที่สุด และมีพลังทำลายล้างรุนแรงที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีการใช้งานมา ด้วยแรงระเบิดเทียบเท่าระเบิดทีเอ็นทีน้ำหนัก 50 เมกะตัน แรงระเบิดของมันคิดเป็น 1,400 เท่าของระเบิดที่ฮิโรชิมาและนางาซากิรวมกัน โดยในการทดสอบเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 1961 พบว่าเกิดลูกไฟกลางอากาศขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 กิโลเมตร ส่วนเมฆรังสีรูปเห็ดมีความสูงประมาณ 64 กิโลเมตร ความกว้างของฐานเมฆประมาณ 40 กิโลเมตร แรงระเบิดส่งแรงอัดมหาศาลสู่ห้วงอวกาศ ทำให้การสื่อสารเป็นอัมพาตไป 1 ชั่วโมง
เรียบเรียง โดย ชัยจักร ทวยุทธานนท์
เรียบเรียง จาก