-
พฤษภาคม…เขียวใสแสงมรกต
มรกตจัดเป็นรัตนชาติสีเขียวเกิดจากธาตุโครเมียมและวานาเดียมจัดอยู่ในแร่ตระกูลเบริล (Beryl) ซึ่งเป็นแร่ที่มีหลายวาไรตี ได้แก่ แอความารีน (aquarmarine) มีสีฟ้า โกลเดนเบริลหรือเฮลิโอดอร์มีสีเหลือง สีแดงเรียกเร็ดเบริล สีชมพูเรียกว่ามอร์แกไนต์ คุณภาพของมรกตอยู่ที่สีหากมีสีเขียวทั่วทั้งเม็ดก็จัดว่าคุณภาพสูง มรกตธรรมชาติทุกชิ้นจะต้องมีตำหนิเป็นเส้น ริ้วสีขาว จุดสีดำ สีสนิม ฝ้าขาวขุ่นตามธรรมชาติ รอยริ้วที่ดูคล้ายรากผักชีเรียกว่า “จาร์ดิน” (jardin) ที่แปลว่า สวน คำว่า Emerald ในภาษาอังกฤษมาจากภาษากรีกว่า smaragdus (σμάραγδος) แปลว่า หินเขียว จัดเป็นหนึ่งในสี่อัญมณีที่เรียกกันว่า ‘Big Four’ ซึ่งประกอบด้วย เพชร ทับทิม แซฟไฟร์ และ มรกต มรกตมีมากมายหลายสีเช่นเดียวกับอะความารีนเพราะมีแร่ธาตุเจือปนอยู่ สีของมรกตมีได้ตั้งแต่เขียวอ่อน (ซึ่งบางคนเรียกว่า มรกตแท้ เพราะมีสิ่งเจือปนอยู่น้อย) สีเขียวอมเหลืองอ่อนๆ ไปจนถึงสีเขียวเข้ม มรกตจะแสดงสีออกมาได้ถูกต้องและเต็มที่ต้องอาศัยนักธรณีวิทยาและช่างเจียระไนที่มีความเชี่ยวชาญ องค์ประกอบพื้นฐานในการจัดเกรดของมรกต ก็เช่นเดียวกับอัญมณีอื่นๆ คือ ต้องพิจารณาจากหลัก 4C คือ สี (color) ความใส (clarity) […]
-
กุมภาพันธ์ : อาเมทิสต์ อัญมณีจักรพรรดิ
อาเมทิสต์ (amethyst) หินเขี้ยวหนุมาน หรือพลอยสีดอกตะแบก จัดเป็นแร่ควอตซ์ชนิดหนึ่ง พบได้ตั้งแต่สีม่วงอ่อนไปจนถึงสีม่วงเข้ม สีซีดจางแบบสีดอกลาเวนเดอร์ไปจนถึงสีชมพู แต่สีที่มีราคาสูงมากเป็นสีม่วงเข้มอมแดง สีม่วงสดใสของอาเมทิสต์เป็นจุดเด่นและทำให้อัญมณีชนิดนี้มีราคาสูงในหมู่ชาวกรีกมาตั้งแต่โบราณ การที่สีของมันเหมือนสีองุ่นจึงถูกเชื่อมโยงกับเทพแห่งไวน์ คือ ไดโอนีซุส (Dionysus) หรือ แบคคัส (Bacchus) ของชาวโรมัน คนโบราณเชื่อว่าเครื่องประดับทำด้วยอาเมทิสจะคุ้มครองผู้สวมใส่จากอาการเมาสุรา ซึ่งสอดคล้องกับชื่อในภาษากรีกของอัญมณีชนิดนี้ว่า อาเมทิสตอส (amethystos) ที่แปลว่า “ไม่เมา” นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าทำให้ผู้สวมใส่ตื่นตัว มีปัญญาหลักแหลม สมองไม่ตื้อหรือทึบตัน กล่าวกันว่าเลโอนาร์โด ดา วินชี ศิลปินคนสำคัญสวมอาเมทิสเป็นประจำเพราะเชื่อว่าช่วยเพิ่มความฉลาดและปกป้องเขาจากความคิดชั่วร้ายต่างๆ ในอดีต แพรพรรณสีม่วงถือว่าเป็นของสำหรับจักรพรรดิหรือผู้สูงศักดิ์ เพราะเป็นสีที่ผสมและย้อมขึ้นได้ยาก สิ่งของที่มีสีม่วงจึงนับเป็นของหายากและราคาแพงไปด้วย บางยุคบางสมัยถือกันว่าสีม่วงเป็นสีของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ จึงมักพบในอัญมณีของราชสำนักและสิ่งของที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนา ในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ถือว่าอาเมทิสต์มีพลังช่วยให้มีสมาธิแก่กล้า ซึ่งพบได้บ่อยในลูกประคำสำหรับสวดมนต์ของชาวทิเบต นอกจากนี้ในหลายวัฒนธรรม อาเมทิสต์ยังเกี่ยวข้องกับความสงบ สมดุลและความกล้าหาญ รวมทั้งมีสรรพคุณรักษาอาการนอนไม่หลับและระงับปวด ตามแนวคิดพลังจักรวาล อาเมทิสต์ ถือเป็นอัญมณีที่มีพลังในการเยียวยารักษามากที่สุดชนิดหนึ่ง โดยถือว่าอาเมทิสต์ประจำจักระที่ 7 หรือ สหัสธารจักระ (The Crown Chakra) ที่กลางกระหม่อม เปรียบเป็นมงกุฎดอกบัว เป็นศูนย์ควบคุมทุกจักระในร่างกาย […]
-
มกราคม : แดงแก่ก่ำโกเมนเอก
โกเมน (garnet) เป็นหินของคนที่เกิดในเดือนมกราคม มีพลังด้านบวก เกี่ยวข้องกับความสุข มิตรภาพและความรัก เป็นอัญมณีที่นิยมมอบให้คนรักในโอกาสแต่งงานครบรอบ 2 ปี (the second anniversary) แม้ทั่วไปโกเมนสีแดงเข้มเป็นที่รู้จักกันมากที่สุด ทว่าอัญมณีกลุ่มนี้กลับพบว่ามีแทบทุกสีและยังไปทำเป็นเครื่องประดับได้ทุกชนิด จัดเป็นหินมีค่าที่มีความซับซ้อนมากชนิดหนึ่ง มีการใช้โกเมนเป็นเครื่องประดับอย่างน้อย 5,000 ปีมาแล้ว ในสุสานอียิปต์โบราณพบโกเมนรวมอยู่ในเครื่องประดับของผู้วายชนม์เสมอ นอกจากนี้ โกเมนยังเป็นหนึ่งในอัญมณีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่งในสมัยโรมัน ส่วนชื่อ garnet นั้น มาจากภาษาละตินว่า granatus ที่หมายถึง เมล็ดธัญพืช เชื่อกันว่าการสวมใส่โกเมนเป็นผลดีต่อหัวใจและการไหลเวียนโลหิต อาจเป็นเพราะสีแดงเข้มที่เหมือนกับเลือดก็เป็นได้ ขณะเดียวกันนักบวชในสมัยกลางก็นิยมใช้โกเมนเป็นสัญลักษณ์ของโลหิตพระเยซูคริสต์ และมักใช้คู่กับหินอาเมทิส (armethyst) ในการประดับตกแต่งวัตถุทางศาสนา ความสุกสว่างของโกเมนทำให้หลายคนเชื่อว่ามันเปล่งแสงออกมาได้เอง และสามารถถ่ายทอดพลังชีวิตให้กับผู้สวมใส่ได้ด้วย ดังนั้น โกเมนจึงเป็นอัญมณีพิทักษ์คุ้มครองที่จะช่วยให้ผู้สวมใส่แคล้วคลาดปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นในสนามรบหรือการเดินทางไกล ราจิเอล (Ragiel) ผู้เขียนตำรา Book of Wings ในศตวรรษที่ 13 กล่าวว่า ถ้าสลักรูปสิงโตลงบนโกเมนจะมีพลัง “ปัดเป่าโรคร้ายของผู้สวมใส่ให้สิ้นไป ส่งเสริมให้ผู้นั้นมีเกียรติยศชื่อเสียงและช่วยป้องกันภยันตรายระหว่างเดินทาง” ข้อมูลทั่วไปของโกเมน จัดอยู่ในกลุ่มแร่ซิลิเกต มีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กเท่าเม็ดทรายไปจนถึงขนาดใหญ่ประมาณ […]