เป็นครั้งแรกที่มีรายงานว่าพบเด็กชายผู้มีลึงค์ 3 อัน (triphallia) นักวิจัยเชื่อว่าเป็นการกลายพันธุ์ของยีน ระหว่างการเจริญของเอ็มบริโอเว็บไซต์นิตยสาร
นิตยสาร Livescience รายงานว่า เด็กชายวัย 3 เดือน จากเมือง Duhok ประเทศอิรัก เข้าพบแพทย์เพื่อรับการผ่าตัดลึงค์อีก 2 อันที่ยื่นออกมาจากโคนอวัยวะเพศและถุงอัณฑะ ส่วนลึงค์อันที่ 3 อยู่ในตำแหน่งปกติ

จากรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร the International Journal of Surgery Case Reports เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 พบว่าเด็กชายคนดังกล่าวแข็งแรงดีหลังการผ่าตัดผ่านไป 1 ปี แม้จะมีการคั่งของของเหลวในถุงอัณฑะบ้าง แต่ถือเป็นลักษณะปกติและรักษาได้ง่ายในทารก
อวัยวะเพศที่ “เกินมา” ในเด็กแรกเกิดพบได้น้อยมาก ประมาณ 1 คน ใน 5-6 ล้านคน ระดับพัฒนาการของอวัยวะเพศแตกต่างกันไป กรณีของเด็กชายที่อิรัก อวัยวะเพศที่เกินมา 2 อัน มีเนื้อเยื่อที่แข็งตัวได้หรือ คอร์ปุส คาเวอร์โนซุม (corpus cavernosum) ซึ่งเลือดจะเข้าไปคั่งเมื่อเกิดการแข็งตัว รวมถึงเนื้อเยื่อคอร์ปัส สปองจิโอซัม (corpus spongiosum) ที่ปกติมีท่อปัสสาวะอยู่ตรงกลางท่อตลอดความยาว ทว่า ลึงค์ทั้งสองไม่มีท่อปัสสาวะ จึงผ่าตัดสะดวกขึ้น

แม้แพทย์ที่ผ่าตัดเด็กชายในอิรักจะไม่พบประวัติผิดปกติในครอบครัวหรือความผิดปกติอื่นอย่างการได้รับสารเคมีหรือการรับยาระหว่างตั้งครรภ์
กระนั้นก็มีข้อมูลจากศาสตราจารย์จอห์น มาร์ติน นักกายวิภาควิทยา มหาวิทยาลัยการแพทย์เซนต์หลุยส์ เมืองเซนต์หลุยส์รั ฐมิสซูรี ว่าในสหรัฐ ศพของผู้บริจาคร่างกายรายหนึ่ง วัย 84 ปี มีอวัยวะเพศ 2 อัน (diphallia) ซึ่งเติบโตตามปกติและมีท่อปัสสาวะร่วมกันที่โคนอวัยวะเพศ ผู้ตายมีบุตร 2 คน ทว่าไม่มีข้อมูลว่าเป็นบุตรที่เกิดตามธรรมชาติหรือไม่
เมื่อทดสอบทางพันธุกรรมของผู้บริจาคร่างกายรายนี้ พบว่ามีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งในยีนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอวัยวะเพศ รวมถึงยีนที่ควบคุมการก่อตัวของโครงสร้างเซลล์เอ็มบริโอ นอกจากนี้ยังพบว่าการกลายพันธุ์ในยีนยังเกี่ยวข้องกับตัวรับฮอร์โมนแอนโดรเจนหรือฮอร์โมนเพศชายและการพัฒนาอวัยวะเพศ อีกด้วย
ทั้งนี้ การรายงานการพบผู้มีลึงค์ 2 อัน (diphallia) เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1609 โดย โยฮันเนส จาค็อบ เวกเกอร์ (Johannes Jacob Wecker) แพทย์ชาวสวิส เขารายงานว่าได้พบศพมีลึง 2 อัน ที่เมืองโบโลญญา ประเทศอิตาลี

เรียบเรียง โดย ชัยจักร ทวยุทธานนท์
เรียบเรียง จาก
https://www.livescience.com/baby-born-three-penises.html?utm_source=twitter&utm_medium=social&utm_campaign=dlvr.it