
นิทานอ่านชีวิต : หมอดูตาทิพย์
ชัยจักร ทวยุทธานนท์ เรียบเรียง
ชาวนายากจนคนหนึ่งชื่อว่าแครบ (Crab) ต้อนวัวคู่ลากเกวียนบรรทุกไม้เข้าไปขายในเมือง หมอดูคนหนึ่งรับซื้อไว้ ระหว่างที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารนับเงินให้ชาวนาอยู่นั้น แครบรู้สึกว่าชีวิตของหมอดูคนนี้ช่างสุขสบายเหลือเกิน ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อลำบากตรากตรำเหมือนอย่างที่เขาเป็นอยู่ ทันใดนั้นก็เกิดความคิดอยากเป็นหมอดูขึ้นมาบ้าง จึงเอ่ยปากถามหมอดูว่าต้องทำอย่างไรถึงจะได้เป็นอย่างเขา
“จะยากอะไร” หมอดูพูด “ง่ายนิดเดียว อย่างแรกเจ้าต้องไปซื้อหนังสือสามเล่ม ดูให้ดีนะว่าปกเล่มหนึ่งมีรูปฝูงไก่ จากนั้นก็ขายเกวียนและวัวแล้วซื้อเสื้อผ้าใหม่ด้วยเงินที่ขายได้นั่นแหล่ะ อย่างสุดท้ายก็เขียนป้ายว่า “หมอดูตาทิพย์” ปักไว้หน้าบ้าน แค่นี้ก็เรียบร้อย”
ชาวนาทำตามที่หมอดูบอกทุกอย่าง
ไม่นานก็เกิดเหตุโจรปล้นขุนนางคนหนึ่งได้ทรัพย์สินไปจำนวนมาก ขุนนางได้ยินว่ามีหมอดูตาทิพย์อาศัยอยู่ในชนบท เขาคิดว่าหมอดูต้องบอกได้แน่ๆ ว่าของที่ถูกปล้นไปอยู่ไหน จึงรีบขึ้นรถม้าออกจากเมืองมุ่งหน้าไปสู่หมู่บ้านแล้วถามหาที่อยู่ของหมอดูตาทิพย์
“อ๋อ ข้านี่แหล่ะ ไม่มีคนอื่นอีกแล้ว” แครบตอบ
“ท่านช่วยไปที่ปราสาทกับข้าด้วยเถอะ” ขุนนางพูดพลางเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง
“เอางั้นก็ได้” หมอดูตอบ “แต่เกรเธลเมียของข้าต้องไปด้วยนะ”
ขุนนางดีใจมาก รีบเชิญทั้งสองขึ้นรถม้ากลับไปด้วยกัน เขาจัดเลี้ยงอาหารค่ำอย่างดีให้แครบกับเมีย คนรับใช้ยกอาหารจานปลามาเสริ์ฟเป็นจานแรก แครบบอกเมียว่า “เกรเธล นี่ลำดับแรก”
คนรับใช้ตกใจมาก ไม่คิดว่าหมอดูคนนี้จะรู้ว่าเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มโจรที่ปล้นขุนนาง จึงไปบอกเพื่อน
“เขารู้ทุกอย่าง เรื่องชักจะไม่ดีแล้วล่ะ”
คนรับใช้คนที่สองไม่เชื่อที่คนแรกพูด พอถึงคราวที่ต้องยกอาหารจานไปเสิร์ฟบ้าง เขาได้ยินหมอตาทิพย์พูดกับเมียว่า “เกรเธล นี่ลำดับสอง”
อารามตกใจในความเก่งกาจของหมอดู คนรับใช้คนที่สองรีบวิ่งออกจากปราสาทไป เช่นเดียวกับคนรับใช้คนที่สามที่เพอยกอาหารมาแล้วได้ยินว่า “เกรเธล นี่ลำดับสาม” ก็โกยแน่บตามไปด้วย
คนรับใช้คนที่สี่ถือจานอาหารที่มีฝาปิดเข้ามาซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของขุนนางที่อยากทดสอบว่าหมอดูคนนี้มีตาทิพย์อย่างที่เขาร่ำลือจริงหรือเปล่า แครบเพ่งฝาปิดจานอยู่นาน แต่เพราะไม่มีพลังวิเศษจึงไม่เห็นอะไร เขาถอนใจแล้วพูดออกมาเบาๆ ว่า “โอ้ เจ้าปู * ผู้น่าสงสาร”
“ตาทิพย์จริงๆ” ขุนนางได้ยินก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ “ข้ามั่นใจว่าท่านต้องหาของที่โจรปล้นไปเจอแน่ๆ”
โจรในคราบคนรับใช้ได้ยินก็อกสั่นขวัญแขวน กลัวว่าถ้าหมอดูเปิดเผยที่ซ่อนทองที่ปล้นมาพวกตนต้องตายกันหมดแน่ เขาส่งขยิบตาให้หมอดูรู้เป็นนัย ด้านหมอดูจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ คนรับใช้พาเขาไปพบพรรคพวกที่เหลือที่มีทองคำกองใหญ่อยู่ตรงหน้า พลางบอกว่าพวกเขาสำนึกผิดแล้ว และจะตอบแทนอย่างงาม ขอเพียงหมอดูไม่พาดพิงถึงพวกตน
หมอดูรับปาก พวกโจรจึงพาเขาไปยังจุดที่ซ่อนสมบัติ
เมื่อกลับมายังห้องจัดเลี้ยง หมอดูเอ่ยกับขุนนางว่า “ท่านครับ ข้ารู้ว่าทองคำอยู่ที่ไหน…”
คนรับใช้คนที่ห้ารีบทิ้งเตาที่กำลังปรุงอาหารเพื่อแอบฟังสิ่งที่หมอดูจะบอกขุนนาง
หมอดูตาทิพย์เปิดหนังสือมองหาภาพฝูงไก่บนปก แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ด้วยความหงุดหงิดเขาจึงร้องขึ้นว่า “ออกมา…ข้ารู้นะว่าอยู่ตรงไหน รีบออกมาเดี๋ยวนี้เลย อย่าให้ข้าโมโห…”
คนรับใช้คนที่ห้าคิดว่าหมอดูตาทิพย์พูดถึงตนจึงร้องขึ้นว่า “หมอดูคนนี้รู้ทุกอย่างจริงๆ”
หมอดูตาทิพย์พาขุนนางไปยังที่ซ่อนทองคำ แต่ก็รักษาคำพูดกับโจรไม่พูดถึงพวกเขาเลย หลังเสร็จภารกิจ เขาได้เงินทองข้าวของจำนวนมากเป็นการตอบแทนจากทั้งขุนนางและโจร
แครบ ชาวนาผู้ยากไร้ บัดนี้กลายเป็นหมอดูตาทิพย์ผู้มีชื่อเสียงไปแล้ว
(นิทานเยอรมัน)
เรียบเรียงจาก https://www.worldoftales.com/European_folktales/German_folktale_27.html#gsc.tab=0
*ต้นฉบับ ใช้ Crab เป็นชื่อของหมอตาทิพย์ ส่วนปูในอาหารจานนี้ใช้ crab เพื่อให้พ้องกับชื่อหมอดู